บริการขนส่งของชิ้นใหญ่ ส่งพัสดุขนาดใหญ่ทั่วไทย

Bulky-Parcel-Delivery

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกกับชีวิตผู้คนในหลายด้าน งานหลายอย่างจึงดำเนินไปอย่างสะดวก รวดเร็วขึ้น เช่นเดียวกันกับการขนส่งที่มีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาสนับสนุน ทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองความต้องการต่อผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี Deliveree ผู้ให้บริการขนส่งของชิ้นใหญ่ผ่านแอปพลิเคชัน ได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อตอบรับความต้องการของธุรกิจที่ต้องส่งพัสดุขนาดใหญ่ แก้ปัญหาหลายอย่างที่ต้องเจอในการขนส่งของใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการหาผู้ให้บริการยาก ค่าส่งสูง หรือการต้องเดินทางไปรับหรือส่งของที่จุดบริการด้วยตนเอง เรื่องกวนใจในการส่งพัสดุชิ้นใหญ่เหล่านี้ จะถูกแก้ไขด้วยบริษัทรับจ้างส่งพัสดุ Deliveree

เช็คค่าขนส่งเปิดแอป

ขนส่งของใหญ่ได้อย่างมั่นใจ ด้วยบริการรับพัสดุถึงที่

สำหรับธุรกิจที่จำเป็นต้องขนส่งของชิ้นใหญ่เป็นประจำ ผู้ประกอบการทราบดีว่า จะต้องเผื่อเวลาในการห่อหรือแพ็คสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แน่นหนา รวมถึงการเดินทางไปยังศูนย์บริการรับ-ส่งพัสดุ แต่จะง่ายกว่าไหม หากมีตัวช่วยมารับพัสดุถึงที่ เพียงคุณใช้บริการของ Deliveree ผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ก็สามารถเลือกบริการขนส่ง เพื่อส่งพัสดุขนาดใหญ่ได้ โดยมีรถเข้ารับส่งของถึงบ้านแบบ door-to-door ผู้ส่งไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังศูนย์บริการหรือสาขาขนส่ง และสามารถแพ็คสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์ที่พอเหมาะได้ ผู้ขนส่งจะนำสินค้าไปส่งให้คุณโดยไม่ผ่านจุดคัดแยกหรือจุดกระจายสินค้า จึงลดความเสี่ยงที่สินค้าอาจได้รับการกระทบหรือเสียหายระหว่างกระบวนการจัดการขนส่ง นอกจากนี้ การใช้งานก็ทำได้ง่าย เพียงเลือกประเภทรถที่ต้องการใช้ ตามปริมาณและขนาดของสินค้าที่ต้องการขนส่ง และเลือกวันเวลาเข้ารับของตามวันที่ลูกค้าต้องการ

ขนส่งสะดวก ในราคาที่เป็นมาตรฐาน

เมื่อต้องส่งพัสดุชิ้นใหญ่ ความกังวลที่ตามมาคงจะหนีไม่พ้นเรื่องค่าใช้จ่ายในการขนส่ง นั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เมื่อได้เลือกใช้บริการขนส่งกับ Deliveree เพราะคุณสามารถเช็คค่าขนส่งด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ก่อนยืนยันการจองรถ โดยระบบจะคำนวณค่าขนส่งด้วยราคามาตรฐานตามระยะทางขนส่ง ตามประเภทรถที่เลือกใช้บริการ ช่วยให้การขนส่งของชิ้นใหญ่เป็นเรื่องประหยัด เพราะผู้ประกอบการสามารถวางแผนการขนส่งได้ จึงช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น ตรวจชอบค่าขนส่งเพิ่มเติมได้ที่ตารางด้านล่างนี้

ประเภทรถค่าบริการตามระยะทาง (กรุงเทพฯ ปริมณฑล)ค่าบริการเหมารายวัน กรุงเทพฯ ปริมณฑล (9 ชม.)ค่าบริการตามระยะทาง (จังหวัดอื่นๆ)ค่าบริการเหมารายวัน จังหวัดอื่นๆ (8 ชม.)
มอเตอร์ไซค์เริ่มต้น 42 บาท + เฉลี่ย 7 บาท ต่อกม.950 บาท--
อีโคคาร์เริ่มต้น 110 บาท + เฉลี่ย 8 บาท ต่อกม.1,350 บาทเริ่มต้น 110 บาท + เฉลี่ย 8 บาท ต่อกม.1,200 บาท
ปิคอัพเริ่มต้น 250 บาท + เฉลี่ย 10.5 บาท ต่อกม.1,800 บาทเริ่มต้น 250 บาท + เฉลี่ย 10.5 บาท ต่อกม.1,600 บาท
กระบะตู้ทึบเริ่มต้น 275 บาท + เฉลี่ย 11 บาท ต่อกม.2,000 บาทเริ่มต้น 275 บาท + เฉลี่ย 11 บาท ต่อกม.1,800 บาท
รถเย็นเริ่มต้น 1,100 บาท + เฉลี่ย 12.5 บาท ต่อกม.2,400 บาท--
รถ 6 ล้อเริ่มต้น 1,950 บาท + เฉลี่ย 15.5 บาท ต่อกม.4,750 บาทเริ่มต้น 1,950 บาท + เฉลี่ย 15.5 บาท ต่อกม.4,250 บาท
รถ 10 ล้อเริ่มต้น 3,200 บาท + เฉลี่ย 18.5 บาท ต่อกม.6,750 บาทเริ่มต้น 3,200 บาท + เฉลี่ย 18.5 บาท ต่อกม.6,000 บาท
เทรลเลอร์เริ่มต้น 4,000 บาท + เฉลี่ย 34 บาท ต่อกม.9,500 บาทเริ่มต้น 4,000 บาท + เฉลี่ย 34 บาท ต่อกม.8,500 บาท

รับ-ส่งพัสดุได้ทุกเวลา ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าไปอย่างคล่องตัว

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความรวดเร็วในการขนส่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจมีชัยไปกว่าครึ่ง ผู้ประกอบการจึงควรเลือกบริการรับ-ส่งพัสดุที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวของธุรกิจ บริการของ Deliveree เข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะทางแอปพลิเคชันหรือทางเว็บไซต์ คุณก็สามารถใช้บริการส่งพัสดุชิ้นใหญ่ได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ ผ่านขั้นตอนที่แสนสะดวก ดังนี้

  1. เลือกประเภทรถ ระบุวันเวลาเข้ารับของ และใส่จุดรับ-ส่งของ
  2. เลือกบริการเสริมต่างๆ ที่ต้องการ เช่น บริการผู้ขับช่วยยกของ และบริการผู้ช่วยเพิ่มเติม
  3. ตรวจสอบรายละเอียดการจองและค่าบริการ เลือกวิธีการชำระเงิน และกดยืนยันการจอง

ช่องทางการชำระเงินที่เลือกได้ตามความเหมาะสม

ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ช่วยให้การชำระเงินเป็นเรื่องสะดวก รวดเร็ว ทำได้หลายรูปแบบตามต้องการ บริการส่งพัสดุขนาดใหญ่ของ Deliveree จึงมีช่องทางการชำระเงินให้ผู้ประกอบการเลือกตามความเหมาะสมของธุรกิจดังต่อไปนี้

  1. เงินสด ผู้ใช้บริการสามารถเลือกจ่ายเงินที่จุดรับ หรือจุดส่งสินค้าก็ได้
  2. บัตรเครดิตและบัตรเดบิต ช่องทางออนไลน์ อย่าง LINE Pay และ TrueMoney Wallet
  3. วางบิล พร้อมเครดิตเทอม สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีการใช้งานเป็นประจำ

และเพื่อตอบโจทย์การขนส่งเชิงธุรกิจ ผู้ประกอบการที่มีความต้องการขนส่งของใหญ่อยู่เป็นประจำ สามารถสมัครโปรแกรมธุรกิจเพื่อชำระเงินแบบวางบิล และรับสิทธิพิเศษอีกมากมาย เช่น วงเงินประกันสินค้าเพิ่มจากสูงสุด 15,000 บาท เป็น 750,000 บาท โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และการใช้งานแดชบอร์ดธุรกิจ เพื่อกำหนดวิธีการจัดการการขนส่งและควบคุมค่าใช้จ่ายของธุรกิจคุณให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้

ขนส่งปลอดภัย ส่งได้ทั่วประเทศ

นอกเหนือไปจากความกังวลเรื่องราคาและความรวดเร็วในการขนส่งของใหญ่แล้ว เรื่องความปลอดภัยระหว่างขนส่งก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการวิตกอยู่ไม่น้อยเช่นกัน บริการขนส่งของ Deliveree มีประกันสินค้าครอบคลุมทุกการขนส่ง แม้ต้องขนส่งระยะไกลก็หมดห่วงด้วยบริการจากผู้ขับมืออาชีพ ปัจจุบัน พื้นที่ให้บริการส่งของของ Deliveree ครอบคลุมจุดรับของใน 25 จังหวัด และจัดส่งได้ทั่วประเทศ ได้แก่

  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร)
  • ภาคกลาง (นครนายก ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อยุธยา และอ่างทอง)
  • ภาคตะวันออก (จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี และระยอง)
  • ภาคเหนือ (เชียงใหม่ และอําเภอเมืองลําพูน)
  • ภาคตะวันตก (ราชบุรี และสมุทรสงคราม)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น อุดรธานี และนครราชสีมา)

ไม่ว่าจะต้องขนส่งของชิ้นใหญ่ไปยังพื้นที่ห่างไกลเท่าใด ก็หมดกังวลเรื่องความล่าช้า เพราะผู้ส่งสามารถติดตามสถานะการขนส่งและตำแหน่งผู้ขับได้อย่างเรียลไทม์บนแอปพลิเคชัน เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การขนส่งเป็นไปตามเวลาและเส้นทางที่กำหนด คุ้มค่าทุกความวางใจที่เลือกใช้บริการของ Deliveree

บริการส่งพัสดุขนาดใหญ่ของ Deliveree สามารถช่วยให้การขนส่งของทุกธุรกิจเดินหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งบริการรับส่งถึงที่พร้อมราคาที่โปร่งใส มั่นใจได้ในด้านความปลอดภัยและความเป็นมืออาชีพของผู้ขับ จะช่วยให้การขนส่งรวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการแข่งขันสำหรับธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน

ใช้บริการขนส่ง Deliveree ได้แล้ววันนี้ผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งในระบบ iOS และ Android หรือผ่านเว็บไซต์ ให้บริการได้ทุกวัน ส่งได้ทั่วไทย หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้า ผ่านไลฟ์แชทในแอป อีเมล support.th@deliveree.com หรือที่เบอร์ 02-105-4400 ทุกวัน ระหว่างเวลา 07:00 น.– 22:00 น.


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ขนส่งของชิ้นใหญ่หรือส่งพัสดุชิ้นใหญ่ทางไหนดี

การขนส่งขิงชิ้นใหญ่หรือส่งพัสดุชิ้นใหญ่ควรเลือกใช้บริการขนส่งที่รับส่งพัสดุขนาดใหญ่ อย่างเช่นบริการขนส่งของบริษัท Deliveree รับขนส่งของใหญ่ไม่จำกัดขนาดและน้ำหนักสูงสุด สามารถเรียกรถรับส่งของได้ถึงที่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 45 บาท จุดเด่นของบริการขนส่งจาก Deliveree คือลูกค้าสามารถขนส่งของชิ้นใหญ่โดยไม่ต้องแพ็คสินค้า และสามารถเรียกรถเข้ารับของได้ผ่านแอปพลิเคชัน และบนเว็บไซต์

Nongnat Jaipol

นงค์นาถ ใจพล

ผู้จัดการฝ่ายการตลาด

บริษัทขนส่งเอกชนทั่วประเทศ รับส่งของถึงที่ ราคาประหยัด

Nationwide-Private-Logistics-Company

ปัจจุบัน การใช้บริการขนส่งเอกชนเพื่อขนส่งสินค้าเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น และจำนวนผู้ให้บริการขนส่งในไทยก็มีเพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการอาจต้องเจอปัญหาในการขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่งที่สูงเกินความจำเป็น ข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ การห่อหรือแพ็กสินค้า หรือการต้องเสียเวลาเดินทางไปที่จุดส่งพัสดุ Deliveree บริษัทขนส่งเอกชนมองเห็นและเข้าใจปัญหาเหล่านั้นเป็นอย่างดี เราจึงได้พัฒนาบริการขนส่งเหมาคัน ที่ให้บริการขนส่งเอกชนทั่วประเทศในราคาประหยัด สามารถเรียกรถเข้ารับสินค้าได้ถึงที่ และส่งถึงที่อย่างรวดเร็ว เรียกรถเข้ารับสินค้าได้ทุกวันผ่านแอปพลิเคชัน

เช็คค่าขนส่งเปิดแอป

ส่งกี่ชิ้นก็คุ้มค่า กับขนส่งเอกชน ราคาประหยัด

การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขนส่ง สามารถช่วยประหยัดต้นทุนทางธุรกิจได้มาก เพราะค่าขนส่งถือเป็นต้นทุนส่วนสำคัญในการทำธุรกิจแทบทุกประเภท เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการและธุรกิจขนส่งสินค้าในราคาประหยัดที่สุด Deliveree จึงมีบริการขนส่งเอกชนทั่วประเทศแบบเหมาคัน ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกการขนส่งที่เหมาะกับปริมาณสินค้าได้ ด้วยบริการรถหลากหลายขนาด ตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง รถกระบะ รถ 6 ล้อ ไปจนถึง รถ 10 ล้อ

จุดเด่นของบริการขนส่งเหมาคันของขนส่งเอกชน Deliveree คือไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนักสูงสุดของสินค้า ไม่ว่าจะส่งสินค้าขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากขนาดไหน ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกและคุ้มค่าทั้งสิ้น

บริการรับ-ส่งของถึงที่ ไม่ต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการ

ในการรับส่งของหรือสินค้าในรูปแบบเดิม ผู้ส่งมักต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางไปส่งของที่ศูนย์บริการหรือสาขา ที่อาจอยู่ไกล หรือกระจุกตัวอยู่แต่ในตัวเมือง บริการขนส่งของ Deliveree ช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพราะมีการพัฒนาระบบการใช้งานให้ผู้ส่งไม่จำเป็นต้องนำของไปส่ง หรือออกไปรับของที่จุดบริการ Deliveree ขนส่งเอกชนมีรถขนส่งจำนวนมาก พร้อมไปรับและส่งสินค้าถึงที่แบบ door-to-door โดยไม่จำกัดจำนวนชิ้นขั้นต่ำ คิดราคาอย่างมีมาตรฐาน ตามระยะทางที่จัดส่ง

อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ประกอบการมักพบเจอ คือ ความยุ่งยากในการส่งสินค้าขนาดใหญ่ เพราะต้องคำนึงถึงการห่อสินค้าเพื่อการขนส่ง เป็นค่าใช้จ่ายแฝงในการส่งสินค้า ทั้งยังต้องคิดหาวิธีนำสินค้าขนาดใหญ่ไปส่งยังจุดบริการรับส่งของ ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณใช้บริการขนส่งแบบเหมาคันกับ บริษัทขนส่งเอกชน Deliveree ขนส่งของ Deliveree ต่างจากบริการขนส่งสินค้าทั่วไปตรงที่สินค้าของคุณถูกจัดส่งได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านศูนย์กระจายสินค้า เพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้าของคุณ และลดความจำเป็นที่คุณต้องมีการแพ็คสินค้าอย่างแน่นหนาหรือใช้วัสดุกันกระแทกในปริมาณมาก ช่วยคุณลดขั้นตอนการห่อสินค้าและปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่ต้องใช้ลงได้  จึงเป็นขนส่งเอกชนที่ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายบรรจุภัณฑ์ 

มั่นใจได้กับบริการขนส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

การรับ-ส่งสินค้าระยะไกลอาจสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการ เช่น บริษัทขนส่งเอกชนอาจให้บริการขนส่งไปต่างจังหวัดไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ใช้ระยะวลาการขนส่งนาน ขั้นตอนการส่งสินค้าเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหาย บริการขนส่งเอกชนทั่วประเทศของ Deliveree จะช่วยให้คุณคลายกังวลจากปัญหาเหล่านั้น เพราะเราพร้อมให้บริการขนส่งจากพื้นที่ดังต่อไปนี้ไปยังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร)
  • ภาคกลาง (นครนายก ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อยุธยา และอ่างทอง)
  • ภาคตะวันออก (จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี และระยอง)
  • ภาคเหนือ (เชียงใหม่ และอําเภอเมืองลําพูน)
  • ภาคตะวันตก (ราชบุรี และสมุทรสงคราม)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น อุดรธานี และนครราชสีมา)

ตลอดระยะการส่งสินค้า คุณสามารถติดตามสถานะการขนส่งได้อย่างเรียลไทม์บนแอป รับรองว่าสินค้าจะถูกส่งอย่างรวดเร็วโดยผู้ขับมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังมีประกันสินค้าครอบคลุมทุกกรณีสินค้าเสียหายหรือสูญหายระหว่างการขนส่งกับเรา

ใช้งานสะดวก รวดเร็ว รับส่งได้ตามเวลาที่ต้องการ

การเลือกใช้บริการขนส่ง Deliveree สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน โดยมีขั้นตอนการใช้งานดังนี้

  1. เลือกประเภทรถ ระบุวันเวลาเข้ารับของ และใส่จุดรับ-ส่งของ
  2. เลือกบริการเสริมต่างๆ ที่ต้องการ เช่น บริการผู้ขับช่วยยกของ และบริการผู้ช่วยเพิ่มเติม
  3. ตรวจสอบรายละเอียดการจองและค่าบริการ เลือกวิธีการชำระเงิน และกดยืนยันการจอง

เพียงเท่านี้ ก็สามารถขนส่งสินค้าจากทุกพื้นที่ ตามเวลาที่ต้องการ

การชำระเงินที่คล่องตัวเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ประสบการณ์การขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่น บริษัทขนส่งเอกชน Deliveree จึงมีช่องทางการชำระเงินให้เลือกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ โดยสามารถเลือกวิธีการชำระเงินได้ดังต่อไปนี้

  1. เงินสด
  2. ออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต LINE Pay หรือ TrueMoney Wallet
  3. วางบิล พร้อมเครดิตเทอม สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีการใช้งานเป็นประจำ

สำหรับการการชำระเงินด้วยเงินสด ผู้ใช้บริการสามารถเลือกจ่ายเงินที่จุดรับหรือจุดส่งสินค้าก็ได้ และหากมีการส่งสินค้าอย่างเป็นประจำ ก็สามารถสมัครโปรแกรมธุรกิจของ บริษัทขนส่งเอกชน Deliveree เพื่อชำระเงินแบบวางบิล และรับสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยให้การขนส่งของธุรกิจคุณเป็นเรื่องสะดวก รวดเร็ว คุ้มค่าตามที่วางแผนไว้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมธุรกิจ ได้ในเว็บไซต์ Deliveree

การเลือกบริษัทขนส่งเอกชนที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับปริมาณสินค้าที่จัดส่ง จะช่วยคุณลดต้นทุนด้านการขนส่ง ประหยัดเวลา และยังสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าว่า สินค้าจะมาถึงอย่างรวดเร็วปลอดภัย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ประกอบการควรเลือกบริการขนส่งที่มีคุณภาพ ให้ Deliveree ขนส่งเอกชนทั่วประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งให้ดียิ่งขึ้น

ใช้งานบริการขนส่งได้ผ่านแอปพลิเคชันในระบบ iOS และ Android หรือบนเว็บไซต์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้า ผ่านไลฟ์แชทในแอป อีเมล support.th@deliveree.com หรือที่เบอร์ 02-105-4400 ทุกวัน ระหว่างเวลา 07:00 น.– 22:00 น.


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

บริษัทขนส่งเอกชนเจ้าไหนรับส่งของทั่วประเทศ

ปัจจุบันมีบริษัทขนส่งเอกชนหลายเจ้าที่ให้บริการขนส่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มของขนส่งสินค้าขนาดเล็ก และสามารถขนส่งได้ภายในวันถัดไป เช่น บริษัทขนส่งเอกชน Kerry Express และ J&T Express ในส่วนของบริษัทขนส่งเอกชนทั่วประเทศในกลุ่มขนส่งสินค้าขนาดใหญ่นั้น ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะเป็นขนส่งทั่วไปที่ยังไม่มีบริการรับส่งสินค้าถึงที่ ลูกค้าต้องไปส่งและรับสินค้าที่ศูนย์บริการหรือสาขา อย่างไรก็ตาม มีบริษัทขนส่งเอกชน Deliveree ที่ให้บริการขนส่งแบบ door-to-door รับส่งของและสินค้าขนาดใหญ่ถึงที่ในราคาประหยัด ความพิเศษ คือลูกค้าสามารถเรียกรถเข้าของผ่านแอปพลิเคชัน และบนเว็บไซต์ ไม่จำเป็นต้องแพ็คของในกล่อง และสามารถขนส่งของได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องผ่านศูนย์กระจายสินค้า

Sorathun

สรธัญ สุขจำเริญ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด

FTL และ LTL คืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร

FTL-and-LTL-Delivery-Service

การเลือกรูปแบบการขนส่งสินค้าที่เหมาะสมและแม่นยำ สามารถช่วยผู้ประกอบการจัดการต้นทุน และเพิ่มผลกำไร สร้างจุดแข็งในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมาก การเลือกการขนส่งที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับปริมาณสินค้า ระยะทางขนส่ง และระดับความรวดเร็วในการขนส่งที่ต้องการ จึงเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการต้องขนส่งสินค้าให้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยปริมาณและประเภทสินค้าที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละธุรกิจ ผู้ให้บริการขนส่งจึงมีรูปแบบการขนส่งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งเต็มคัน (FTL) และการขนส่งไม่เต็มคัน (LTL) โดยแต่ละรูปแบบมีวิธีการส่ง ระยะเวลาขนส่ง ค่าใช้จ่าย รวมถึงข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ผู้ประกอบการจึงควรทำความเข้าใจรูปแบบการขนส่งทั้ง 2 ประเภท เพื่อพิจารณาเลือกใช้บริการให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

การขนส่งเต็มคันหรือเหมาคัน (FTL – Full Truck Load) 

FTL คือ บริการขนส่งสินค้าแบบเต็มคันหรือเหมาคันรถ บรรทุกและจัดส่งของของผู้ใช้บริการเจ้าเดียวเท่านั้น เป็นการขนส่งของโดยตรงจากจุดรับไปยังจุดส่ง และสามารถจัดส่งของได้ทันที สินค้าไม่มีการเปลี่ยนถ่ายยานพาหนะระหว่างทางและไม่มีการแวะเข้าศูนย์กระจายสินค้าหรือคลังสินค้า การขนส่งรูปแบบนี้ตอบโจทย์การขนส่งของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจที่มีการขนส่งสินค้าปริมาณมากต่อครั้ง โดยผู้ให้บริการส่วนมากจะให้บริการด้วยรถบรรทุก 4 ล้อ 6 ล้อ ไปจนถึงรถ 10 ล้อ และผู้ให้บริการมักคิดค่าขนส่งตามระยะทางขนส่ง จึงมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าต่อการขนส่งสินค้าปริมาณมาก และสามารถจัดส่งของได้อย่างรวดเร็ว

ข้อดีของการขนส่งแบบเต็มคันรถ

  • ขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลาแวะส่งสินค้าของลูกค้าอื่นๆ และสามารถกำหนดเส้นทางการขนส่งเพื่อการขนส่งที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
  • ส่งของได้แบบ door-to-door หรือขนส่งตรงจากจุดรับไปยังจุดส่ง
  • ประหยัดและคุ้มค่าเมื่อต้องขนส่งสินค้าปริมาณมาก
  • กรณีที่ส่งของขนาดเล็กหรือกลาง เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความรวดเร็วในการขนส่งสูง
  • ขนส่งสินค้าได้อย่างปลอดภัย เพราะเป็นการขนส่งสินค้าจากจุดรับไปยังจุดส่ง ไม่มีการแวะที่จุดพักสินค้า หรือเปลี่ยนยานพาหนะระหว่างเส้นทาง ทำให้ลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหายหรือสูญหายได้ดี

ข้อจำกัดของการขนส่งแบบเต็มคันรถ

  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อขนส่งสินค้าปริมาณน้อย เนื่องจากผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งของเต็มคันรถแต่เพียงเจ้าเดียว ไม่มีการแบ่งค่าขนส่งกับธุรกิจรายอื่น

การขนส่งไม่เต็มคัน (LTL – Less than Truck Load) 

LTL คือ บริการขนส่งแบบไม่เต็มคันรถหรือส่งของแบบรายชิ้น เป็นการขนส่งสินค้าของหลายๆ เจ้าในการขนส่ง ต่อเที่ยว ทำให้มีค่าขนส่งที่ถูก ค่าใช้จ่ายมักคิดตามขนาดสินค้า และจำนวนชิ้นที่ขนส่ง เหมาะกับธุรกิจรายย่อยที่ต้องขนส่งสินค้าในปริมาณน้อย หรือต้องการขนส่งสินค้ารายชิ้นไปยังจุดส่งต่างๆ สินค้าอาจถูกรวบรวมไว้ที่ศูนย์กระจายสินค้าก่อน แล้วนำไปจัดส่งเมื่อมีจำนวนสินค้ามากพอเพื่อขนส่งไปยังจุดส่งเดียวกัน การขนส่งรูปแบบนี้สามารถช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งได้ เพราะผู้ประกอบการไม่ต้องแบกรับค่าขนส่งทั้งหมด แค่จ่ายตามปริมาณสินค้าที่ต้องจัดส่งเท่านั้น

ข้อดีของการขนส่งแบบไม่เต็มคัน

  1. ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เพราะสามารถจ่ายตามขนาดและจำนวนสินค้าที่ต้องส่ง
  2. สามารถเลือกใช้บริการที่ตรงกับปริมาณสินค้า ไม่จำเป็นต้องใช้รถเต็มคันเพื่อขนส่งสินค้าปริมาณน้อย
  3. ลดปริมาณรถบรรทุกสินค้าบนท้องถนน เมื่อธุรกิจหลายรายตกลงร่วมใช้รถบรรทุกคันเดียวกันส่งสินค้า จะช่วยลดจำนวนรอบในการขนส่ง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การขนส่งรูปแบบนี้จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูง

ข้อจำกัดของการขนส่งแบบไม่เต็มคัน

  1. ความรวดเร็วในการขนส่งที่ช้ากว่า ไม่สามารถจัดส่งได้ทันที เพราะไม่ได้เป็นการส่งสินค้าของผู้ใช้บริการเพียงรายเดียว ต้องมีขั้นตอนพักสินค้า และส่งสินค้าของหลายๆ เจ้า ตามจุดส่งต่างๆ

  2. ลำดับและเวลาการจัดส่งที่ไม่สามารถกำหนดได้อย่างแน่นอน สินค้าจะถูกจัดเรียงร่วมกับเจ้าอื่น หากสินค้าของคุณอยู่ในรายการจัดส่งลำดับท้ายๆ ผู้รับจะต้องรอสินค้านานขึ้น

  3. จำกัดจุดรับ-ส่งของ ผู้ให้บริการหลายๆ เจ้าอาจยังไม่ให้บริการรับหรือส่งของถึงที่ ทำให้ลูกค้าต้องนำสินค้าที่ต้องการขนส่งไปส่งที่ศูนย์บริการต้นทางหรือไปรับสินค้าที่ศูนย์บริการปลายทางเช่นกัน

การขนส่งรูปแบบไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ

ความแตกต่างของรูปแบบการขนส่งสินค้าทั้ง 2 ประเภท เป็นข้อมูลสำคัญเพื่อนำมาใช้พิจารณาการขนส่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เราจึงขอยกตัวอย่างกลุ่มธุรกิจที่เหมาะกับรูปแบบการขนส่งนั้นๆ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

  • กลุ่ธุรกิจขนาดกลางและใหญ่ที่ต้องขนส่งสินค้าปริมาณมาก หรือสามารถบรรจุสินค้าได้เต็มรถต่อรอบการขนส่ง ควรเลือกบริการขนส่งเต็มคันรถหรือเหมาคันรถ (FTL) เพราะทั้งรวดเร็วและคุ้มค่าในการส่งสินค้าปริมาณมาก โดยไม่กระทบต่อต้นทุนสินค้าคงคลัง หรือในกรณีที่ขนส่งสินค้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษระหว่างขนส่ง เช่น สินค้าที่แตกหักง่าย ก็ควรเลือกส่งของเต็มคัน เพราะสินค้าจะไม่ไปปะปนกับเจ้าอื่น ถูกจัดส่งได้ทันที และรวดเร็ว ลดความเสี่ยงการเสียหายและสูญหายของสินค้าระหว่างขนส่ง
     
  • กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ร้านค้าปลีก หรือ SMEs ที่ส่งของเป็นรายชิ้นในปริมาณไม่มากไปให้กับผู้รับที่หลากหลาย แนะนำให้เลือกการขนส่งไม่เต็มคันรถ (LTL) เพราะไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าขนส่งรถทั้งคัน แต่สามารถจ่ายตามขนาดและจำนวนสินค้าที่ต้องการขนส่ง ตัวเลือกนี้จะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง เช่น ลดรอบการขนส่งสินค้า ลดค่าน้ำมัน ลดค่าผู้ขับ และปัจจัยค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ช่วยให้นำงบส่วนนี้ไปต่อยอดทางธุรกิจให้ขยายใหญ่ต่อไปได้

การพิจารณาเลือกรูปแบบการขนส่งอย่างละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบ จะช่วยให้คุณได้ตัวเลือกที่เหมาะสมกับการขนส่งของธุรกิจคุณ ความคุ้มค่าที่คุณเลือกจะช่วยให้ผลประกอบการเป็นไปตามที่วางไว้อย่างแน่นอน

Deliveree แอปบริการขนส่งแบบครบวงจร รับรองการขนส่งทุกประเภท

ทุกธุรกิจมีขนาดและความต้องการด้านการขนส่งที่แตกต่างกันออกไป ผู้ให้บริการขนส่งเชิงธุรกิจอันดับหนึ่งอย่าง Deliveree จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยจัดการการขนส่งแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งเต็มคันรถหรือบริการขนส่งไม่เต็มคันรถ เพียงแอปเดียว ลูกค้าธุรกิจทุกขนาดก็สามารถเข้าถึงบริการขนส่งตามความต้องการได้ เรียกรถรับส่งสินค้าได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจองรถล่วงหน้าได้สูงสุด 14 วัน เช็คค่าขนส่งและพื้นที่ให้บริการได้ทันที่ที่ปุ่มด้านล่าง

เช็คค่าขนส่งเปิดแอป

Banthita Saelow

บัณฑิตา แซ่โล้ว

นักวางแผนธุรกิจและการขาย