5 WooCommerce B2B Plugin ที่ร้านค้าออนไลน์ต้องมี

Woocommerce-App-Recommendations

ความก้าวหน้าของโลกดิจิทัลส่งผลให้การทำธุรกิจออนไลน์เป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย โดยเฉพาะการเปิดร้านค้าออนไลน์เพื่อเสนอขายสินค้า เช่น อาหารแห้ง เครื่องประดับ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของเล่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือของตกแต่งบ้าน เป็นต้น แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีทักษะในด้านการทำเว็บไซต์ การใช้ plugin เป็นหนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสวยงาม รวมไปถึงฟังก์ชันการทำงานให้กับเว็บไซต์ของคุณ

อีเมลทีมธุรกิจเช็คค่าขนส่ง

Plugin คืออะไร

Plugin คือ ส่วนเสริมที่คุณสามารถติดตั้งเพื่อเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ ให้กับเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้เว็บไซต์ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ทั้งในแง่การจัดการระบบหลังบ้าน การเพิ่มความน่าเชื่อถือ การอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า รวมถึงการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า

WooCommerce คืออะไร

WooCommerce คือเว็บไซต์ระบบอีคอมเมิร์ซสำหรับใช้ออกแบบและสร้างร้านค้าออนไลน์ชื่อดังที่สุดของเว็บไซต์ WordPress โดย WooCommerce จะช่วยเปลี่ยนให้เว็บไซต์ของคุณให้กลายเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซแบบมือโปรด้วยการสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ที่ครอบคลุมถึงระบบตะกร้า การขนส่ง การชำระเงิน ระบบสมาชิก ระบบจัดการหลังร้าน ระบบตรวจสอบออเดอร์ ฯลฯ จนอาจกล่าวได้ว่าคุณสามารถสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ได้ฟรีๆ ด้วย WooCommerce นอกจากนี้ WooCommerce ยังมี WooCommerce B2B plugin เสริมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์อีกมากมายที่จะช่วยให้คุณจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบทุกมิติ ดังนั้น หากใครที่กำลังเริ่มต้นทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ วันนี้เรามี 5 WooCommerce plugin แนะนำที่คัดมาแล้วว่าน่าใช้หลายตัวมาฝากกัน ซึ่ง WooCommerce B2B plugin แต่ละตัวที่เราคัดมานั้น รับรองว่าจะช่วยเพิ่มฟังก์ชันให้กับเว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

1. แปลภาษา Theme และ Plugin ด้วย Loco Translate

แม้ในปัจจุบัน WordPress จะปล่อยเวอร์ชันภาษาไทยออกมาให้ใช้งานแล้ว แต่ผู้ใช้หลายท่านอาจยังเจอปัญหาภาษาไทยบน WooCommerce ที่ไม่สมบูรณ์ เช่น บางคำที่แปลไม่ถูกหรือยังไม่ได้แปล ในกรณีนี้ คุณสามารถใช้งานปลั๊กอิน Loco Translate เพื่อแปลภาษาของปุ่มหรือส่วนของเว็บไซต์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และเพิ่มภาษาไทยลงไปใน plugin หรือจะแปลเว็บไซต์จากไทยเป็นอังกฤษให้มีความอินเตอร์มากขึ้นก็ได้

ดาวน์โหลด WooCommerce plugin แนะนำ: Loco Translate

2. เพิ่มระบบแจ้งชำระเงินด้วย Seed Confirm Pro

Seed Confirm Pro คือ ปลั๊กอินแจ้งชำระเงินของคนไทยที่จะแจ้งการชำระเงินในกรณีที่ลูกค้าทำการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารหรือ ATM แล้วนำสลิปมาแจ้งผ่านปลั๊กอินนี้ โดย Seed Confirm Pro จะสร้างหน้าและแบบฟอร์มแจ้งชำระเงินให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับปลั๊กอิน WooCommerce แล้ว ระบบยังช่วยดึงหมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลชื่อ เบอร์ติดต่อ รายการสั่งซื้อ และยอดโอน พร้อมนำข้อมูลธนาคาร รวมถึงโลโก้ธนาคารไปแสดงในหน้าสั่งซื้อและชำระเงินให้อัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าปรับข้อความ สีพื้นหลัง และกำหนดช่องบังคับกรอกได้

ดาวน์โหลด WooCommerce plugin แนะนำ: Seed Confirm Pro

3. พิมพ์ที่อยู่พร้อม QR Code ด้วย WooCommerce Order Address Print

สำหรับ WooCommerce B2B plugin ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขายเองก็มีไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น WooCommerce Order Address Print ซึ่งเป็น plugin ที่จะช่วยดึงข้อมูล และพิมพ์ที่อยู่ของลูกค้า พร้อม QR Code สำหรับทำใบปะหน้าซองจดหมายหรือกล่องพัสดุเพื่อจัดส่งถึงมือลูกค้า ซึ่งผู้ขายสามารถเลือกสั่งพิมพ์ได้ทั้งรายการเดี่ยวหรือหลายรายการพร้อมกันก็ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาของใบปะหน้า เช่น ชื่อ ที่อยู่ รูปแบบการสั่งซื้อ หมายเลขโทรศัพท์และรูปแบบขนาดตัวอักษร และดาวน์โหลดที่อยู่เป็นไฟล์ .doc ได้อีกด้วย

ดาวน์โหลด WooCommerce plugin แนะนำ: WooCommerce Order Address Print

4. จัดการออเดอร์และสต๊อกออนไลน์ด้วย ZORT

ZORT คือ ระบบหลังบ้านสำหรับจัดการร้านค้าออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารระบบร้านค้าออนไลน์และจัดการคำสั่งซื้อได้จากหลากหลายช่องทางอย่างเป็นมืออาชีพ อาทิ ตรวจสอบจำนวนสินค้า ดูสต๊อกสินค้า รวมไปถึงรายงาน การทำบัญชี และการส่งสินค้า ซึ่ง ZORT จะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งชั้นนำ พร้อมช่วยพิมพ์ใบแปะกล่องได้ทันทีแบบไม่ต้องคัดลอกข้อมูลมาใส่ใหม่ทีละรายการ และมีระบบการแจ้งเลขติดตามสินค้าผ่านการส่งข้อความได้อีกด้วย

ดาวน์โหลด WooCommerce plugin แนะนำ: ZORT

5. ตั้งค่าการจัดส่งแบบมีเงื่อนไขด้วย WooCommerce Advanced Free Shipping

การทำร้านค้าออนไลน์และการจัดส่งสินค้าเป็นสิ่งที่มาคู่กัน คุณสามารถตั้งค่าจัดส่งฟรีแบบมีเงื่อนไขได้ด้วย WooCommerce Advanced Free Shipping เช่น 

  • จัดส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท
  • สั่งซื้อสินค้า 2 ชิ้นขึ้นไปจัดส่งฟรี
  • จัดส่งฟรีเฉพาะสินค้าที่มีน้ำหนักรวมน้อยกว่า 500 กรัม
  • จัดส่งฟรีเฉพาะการจัดส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าเงื่อนไขอื่นๆ ได้ตามที่คุณต้องการ ส่วนการจัดส่งใดที่อยู่นอกเงื่อนไขที่ตั้งไว้ก็จะแสดงค่าจัดส่งทั่วไปตาม Shipping methods ของ WooCommerce ที่ได้ตั้งไว้

ดาวน์โหลด WooCommerce plugin แนะนำ: WooCommerce Advanced Free Shipping

หากร้านค้าคุณขายสินค้าขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก หรือสินค้าที่ต้องขนส่งด่วน การมีปลั๊กอินขนส่งรูปแบบ on-demand สามารถเพิ่มช่องทางการขนส่งให้ลูกค้าเลือกมากยิ่งขึ้น โดย Deliveree ได้พัฒนา WooCommerce plugin ที่ให้คุณส่งของด่วนจากร้านถึงมือของลูกค้าคุณได้ใน 2-3 ชั่วโมง ด้วยการเรียกรถอัตโนมัติเมื่อลูกค้าทำการสั่งซื้อ จุดเด่นของปลั๊กอินขนส่ง Deliveree คือสามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองภายในไม่กี่นาที ตั้งค่าราคาและประเภทรถได้สะดวกตามความต้องการ และมีบริการเสริมด้านการขนส่ง เช่น บริการผู้ช่วยยกของ บริการเก็บค่าสินค้าปลายทาง (COD) และบริการส่งคืนเอกสาร (POD) ให้เลือกในระบบ นอกจากนี้ด้วยรูปแบบการขนส่งเหมาคัน ลูกค้าสามารถรวมหลายๆ ออเดอร์ และให้ระบบจัดเส้นทางขนส่งสินค้าด้วยการใช้รถขนส่งคันเดียว ถือเป็นทางเลือกการส่งสินค้าด่วนที่ประหยัดและคุ่มค่า

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับปลั๊กอิน Deliveree และการเชื่อมต่อ API ได้ที่ www.deliveree.com/th/power-of-api/ หรือ ปรึกษาการใช้งานบริการขนส่งในรูปแบบธุรกิจ ได้กับฝ่ายลูกค้าธุรกิจที่อีเมล business.th@deliveree.com


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

WooCommerce plugin แนะนำมีอะไรบ้าง

WooCommerce B2B plugin แนะนำในการจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรได้แก่ ปลั๊กอิน Loco Translate ตัวช่วยแปลภาษา Theme และ Plugin ปลั๊กอินเพิ่มระบบแจ้งชำระเงินด้วย Seed Confirm Pro ปลั๊กอิน WooCommerce Order Address Print เพื่อพิมพ์ที่อยู่พร้อม QR Code ปลั๊กอิน ZORT เพื่อจัดการออเดอร์และสต๊อกออนไลน์ด้วย ปลั๊กอิน WooCommerce Advanced Free Shipping ตัวช่วยตั้งค่าการจัดส่งแบบมีเงื่อนไข และปลั๊กอิน WooCommerce Deliveree ตัวช่วยด้านการขนส่งสินค้าแบบ on-demand เพื่อจัดส่งของให้ลูกค้าภายใน 2-3 ชั่วโมง

scroll

บล็อกนี้เป็นบล็อกภาษาไทย คลิกด้านล่างเพื่ออ่าน

Thai Flag Language

ลูกค้า

ผู้ขับ

ข้อมูลเพิ่มเติม